การจัดการประสิทธิภาพของพนักงานที่เชื่อมต่อพนักงานแต่ละคนจะมีแผนกลยุทธ์และการดำเนินงานโดยถูกต้องสอดคล้องวัตถุประสงค์ประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนของกระบวนการประเมินผลการปฏิบัติ องค์กรต้องมีวิธีการขับรถพฤติกรรมของพนักงานและผลทางการเงินให้กับดัชนีชี้วัด KPI แต่รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ การจัดการผลการดำเนินงานและการประเมินเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานกับผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์
804501.Naridsara.
วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
What did I really learn on 28 Jan
ความรู้ที่ได้จากการเรียนเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2555 ในหัวข้อTraining & Development, Performance Management, Career Planning, Employer Branding, Compensation & Benefits ได้รับความรู้ดังนี้
Training & Development
หัวใจสำคัญของการเรียนรู้คือ คนอยากจะเรียนรู้ก็ต่อเมื่อมีFeedback ซึ่งองค์กรจะมี Feedback โดยการประเมินงานของพนักงาน การTraining ต้องเตรียมคนและบอกจุดมุ่งหมายว่าทำไมต้องอบรม เมื่ออบรมแล้วจะได้ประโยชน์อะไร การอบรมต้องมีmotivationให้พนักงาน
ปัจจัยการพัฒนาคนเก่ง มีดังนี้
- Job Assignments การมอบหมายงานให้
- Coaching Feedback การอธิบายให้เขาเห็นภาพที่ชัดเจนว่าพฤติกรรมที่เขาได้ทำไปนั้นส่งผลเสียอะไรบ้างโดยชี้ให้เห็นเป็นรูปธรรม จะช่วยให้เขาสามารถนำ Feedback นี้ไปปรับปรุงหรือแก้ไขได้
- Mentoring คอยเป็นพี่เลี้ยงที่สารถให้คำแนะนำ ปรึกษา และความรู้
- Training
Performance Management คือการบริหารผลการปฏิบัติงาน คือระบบการบริหารการจัดการเพื่อให้ผลการปฏิบัติงานขององค์กรและพนักงานเป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน
Purpose of Performance Management
1. เปลี่ยนเป้าหมายองค์กรเป็นเป้าหมายพนักงาน แบ่งงานกัน
2. การทำงานสอดคล้องกับเป้าหมายรวม
3. สร้างความชัดเจนว่าหัวหน้าคาดหวังอะไร
4. ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
5. เอาไปใช้ในกระบวนการจัดการทรัพยากรบุคคลเช่น การพัฒนาคน แผนประสบความสำเร็จ หรือ ค่าตอบแทน
Career Planning การวางแผนอาชีพ เพื่อการพัฒนาองค์การ
การวางแผนอาชีพ ถือเป็นหน้าที่หลักหน้าที่หนึ่งของนักทรัพยากรมนุษย์ที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างขวัญ กำลังใจ และรักษาคนเก่งคนดีไว้ในองค์การ โดยใช้การวางแผนอาชีพเป็นเครื่องมือช่วยในการกำหนดความก้าวหน้าในการงาน การทำงานของพนักงานอย่างมีเป้าหมาย และกำหนดหนทางไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมาย ดังนั้นวิธีการนี้จึงมีจุดมุ่งไปยัง บุคลากรให้มีความตระหนักต่อความสนใจ คุณค่า จุดอ่อนจุดแข็งของตนเอง การได้รับสารสนเทศ เกี่ยวกับความก้าวหน้าในหน่วยงาน การวิเคราะห์เป้าหมายในอาชีพ และการกำหนดแผนปฏิบัติงานเพื่อบรรลุเป้าหมายในอาชีพ
ผู้บริหาร บุคลากร และองค์การ มีบทบาทในการพัฒนางานอาชีพ กล่าวคือ บุคลากรแต่ละคน ต้องยอมรับความรับผิดชอบในงานของตน ประเมิน ความสนใจ ทักษะ และค่านิยาม ตลอดจนแสวงหาข้อมูล และทรัพยากรที่เกี่ยวกับงานอาชีพ เพื่อการก้าวหน้าไปสู่ความมั่นใจ จะเป็นงานอาชีพที่มีความสุขและความสำเร็จ ผู้บริหารแต่ละคนจะต้องแสดงบทบาทในการพัฒนางานอาชีพของบุคลากร โดยจัดเวลาให้มีการป้อนกลับผลการปฏิบัติงาน ตามจุดมุ่งหมาย กำหนดให้มีการพัฒนาช่วยเหลือตลอด จนมีส่วนร่วมในการอภิปราย การพัฒนางานอาชีพผู้บริหาร ต้องแสดงตนเสมือนเป็นผู้ฝึกสอน (coach) ผู้ประเมิน (appraiser) เช่น รับฟังและทำแผนอาชีพของบุคลากรแต่ละคนให้ชัดเจน จัดให้มีการป้อนกลับข้อมูลสร้างทางเลือกในงานอาชีพ และเชื่อมโยงบุคลากรกับทรัพยากรขององค์กรและทางเลือกงานอาชีพ การดำเนินงานดังกล่าวสามารถทำ ตารางเปรียบเทียบได้ดังนี้
เมื่อการวางแผนอาชีพมีความสำคัญจึงขอนำเสนอกิจกรรมต่างๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการวางแผนอาชีพดังนี้
1.จัดให้มีศูนย์กลางการพัฒนาบุคลากร เพื่อใช้เป็นผู้ทำหน้าที่สร้างและดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องมือในการประเมินตนเอง ตั้งแต่บุคลิกภาพ ความสามารถ ทักษะ
2.จัดให้มีคู่มือการวางแผนอาชีพเพื่อใช้เป็นแนวทางและแนวคิด สำหรับบุคลากรในการวางเป้าหมายในอาชีพของตน ซึ่งเนื้อหาสาระของคู่มืออาจประกอบด้วยการประเมินตนเอง การตรวจสภาพทิศทางของอาชีพ การอภิปรายวิธีการที่จะพัฒนาอาชีพ การจัดทำแผนปฏิบัติงาน
3.จัดให้มีการพูดคุย สนทนาระหว่างพนักงานและหัวหน้างาน เพื่อได้รับข้อมูลข่าวสาร รวมถึงวิเคราะห์ ติดตาม และประเมินพนักงานของตนว่าทำงานเป็นอย่างไร ควรจะพัฒนาอะไรเพิ่มเติม และโอกาสความก้าวหน้าจะเป็นอย่างไร
4.จัดให้มีที่ปรึกษาทางอาชีพหรือการให้คำแนะนำ โดยประกอบด้วย บทบาทของบุคลากรในการวางแผนอาชีพ และบทบาทของผู้บริหารในการให้คำปรึกษาทางอาชีพ และบทบาทขององค์กรที่รับผิดชอบในการวางแผนอาชีพดังนี้
4.1บทบาทของบุคลากรในเรื่องการวางแผนอาชีพ
- ริเริ่มที่จะสอบถามข้อมูลย้อนกลับจากผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของพนักงาน
- วิเคราะห์ลำดับขั้นตอนการพัฒนาอาชีพและความจำเป็นที่ต้องการพัฒนา
- มีโอกาสที่จะเรียนรู้เพิ่มขึ้น
- ติดต่อสัมพันธ์กับบุคลากรจากลุ่มงานอื่นที่แตกต่างกัน ทั้งภายในและภายนอกเช่น สมาคมวิชาชีพ
4.2 บทบาทของผู้บริหารในการอภิปรายอาชีพ
- ผู้บริหารเพิ่มความตระหนักในเป้าหมายและความสนใจที่สัมพันธ์กับงานของบุคลากร
- ผู้บริหารและบุคลากรตกลงร่วมกันในขั้นต่อไปของการพัฒนา
- บุคลากรเข้าใจถึงมุมมองของผู้บริหารเกี่ยวกับผลงานของตน ความจำเป็น และทางเลือกในการพัฒนา
- ผู้บริหารและบุคลากรตกลงกันถึงวิธีการอย่าง ไรที่จะทำให้ความต้องการของบุคลากรสอดคล้องกับงานที่ทำ
- ผู้บริหารจัดสรรทรัพยากร เพื่อช่วยให้บุคลากรประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ตกลงภายใต้การอภิปรายในอาชีพ
4.3 บทบาทขององค์กรที่รับผิดชอบในการวาง แผนอาชีพ
- ฝึกปฏิบัติเรื่องอาชีพเช่น การจัดสัมมนาในหัวข้อของการวางแผนอาชีพ
- มีศูนย์ข้อมูลอาชีพเช่น กำหนดให้มีฐานข้อมูลด้านอาชีพเกี่ยวกับตำแหน่งงาน การฝึกอบรม
- คู่มือการวางแผนอาชีพเช่น จัดทำคู่มือที่เป็นแบบฝึกหัดและอภิปราย
- การปรึกษาทางอาชีพเช่น จัดให้มีที่ปรึกษาด้านอาชัพเพื่อให้คำแนะนำ
- สายทางก้าวหน้าในอาชีพเช่น การวางแผนกลุ่มตำแหน่งงาน วิเคราะห์ทักษะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งที่สูงขึ้น
ในบทสรุปของการวางแผนพัฒนาสายทางก้าวหน้าในอาชีพ ถือเป็นกลยุทธ์ของการดำเนินงาน เพื่อให้องค์กรมีระบบกลุ่มงานอาชีพที่สามารถแสดงให้เห็นว่าตนเองอยู่ที่ไหน และมีเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพอย่างไร นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการรักษาบุคลากร ให้อยู่กับหน่วยงาน สร้างขวัญ กำลังใจ จูงใจ ทำงานอย่างทุ่มเทให้กับองค์กร
Employer Branding คือ นำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทให้แก่บุคคลที่เข้าข่ายเป็นว่าที่ลูกจ้างในอนาคต โดยเฉพาะในระดับ Talent ที่หลายบริษัทต่างก็ต้องการตัว ซึ่งบริษัทสามารถทำได้โดยการให้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับชีวิตการทำงานกับบริษัทนั้นๆ สู่กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
- วิสัยทัศน์ธุรกิจ และแบบอย่างของภาวะผู้นำของบริษัท
- นโยบายและกระบวนการทำงาน
- ค่านิยมและวัฒนธรรมของบริษัท
- บุคลิกลักษณะขององค์กร
- ชื่อเสียงเกียรติประวัติของบริษัทในสายตาลูกค้าภายนอก
- คุณภาพของสินค้าและบริการ
- มาตรฐานการคัดเลือกบุคลากร และการปฐมนิเทศพนักงาน
- หลักการบริหารให้ได้ผลงานของบริษัท
- การพัฒนาฝึกอบรมพนักงาน
- สภาพแวดล้อมการทำงานโดยทั่วไป
- ระบบผลตอบแทน
- สภาพของพนักงานหลังจากไม่ได้ทำงานกับบริษัทแล้ว
บริษัทที่จะทำ Employment Branding จะต้องชัดเจนในเรื่องของนโยบายและวิสัยทัศน์ ต้องสามารถตอบคำถามได้ว่า เราจะไปทางไหน เราต้องทำอะไร และเราจะได้อะไร ซึ่งผู้บริหาร ฝ่ายการตลาด และ HR จะต้องร่วมกันวางแผน และสื่อสารให้พนักงานเข้าใจตรงกัน เพื่อร่วมกับสร้างภาพลักษณ์ที่ดีออกสู่บุคคลภายนอก
นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้วย เช่น เรื่องการทำงานเป็นทีม การมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าและงานในหน้าที่ การสร้างทัศนคติที่ถูกต้องเหมาะสมในการทำงาน ตลอดจนการมีผู้นำที่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกน้องปฏิบัติตาม ถ้าผู้นำพร้อมลุย ลูกน้องก็จะมีพลังในการทำงาน ถ้าผู้นำเอาแต่สั่งการ ลูกน้องก็จะเบื่อหน่าย ไม่มีแรงจูงใจที่ดี
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องให้พนักงานได้มีโอกาสในการฝึกอบรม หรือศึกษาเพิ่มเติมอยู่เสมอ เมื่อพนักงานมีผลงานที่ดี นายจ้างต้องรู้จักยกย่องชมเชย และให้รางวัล นายจ้างที่เอาใจใส่ลูกน้อง ก็จะสามารถมัดใจลูกน้องได้ และได้ความจงรักภักดีตอบแทน
เมื่อบริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วย โอกาสในการสรรหาและคัดเลือกพนักงานคุณภาพเยี่ยมก็มีมากขึ้น ทั้งยังสามารถรักษาพนักงานให้อยู่กับบริษัทนานๆ ลดอัตราการลาออกของพนักงานได้ด้วย
อย่างไรก็ตามในการสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลภายนอก แน่นอนว่าแต่ละบริษัทจะต้องนำเสนอแต่ภาพลักษณ์ที่ดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่พึงระวังก็คือ อย่าสร้างภาพเกินความเป็นจริง จนกลายเป็นการโกหกหลอกลวง เมื่อพนักงานเข้ามาทำงานแล้วพบว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับเป็นเพียงการสร้างภาพของบริษัทเท่านั้น ก็คงไม่มีพนักงานคนไหนอยากร่วมงานด้วยไปนานๆ
Compensation & Benefits
ค่าตอบแทน (Compensation) คือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่องค์การจ่ายให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ค่าใช้จ่ายนี้อาจจ่ายในรูปตัวเงินหรือมิใช่ตัวเงินก็ได้ เพื่อตอบแทนการปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบ จูงใจให้มีการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน และเสริมสร้างฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้ปฏิบัติงานให้ดีขึ้น
- ค่าจ้างและเงินเดือน (Wage and Salary) ได้แก่ ค่าตอบแทนที่องค์การจ่ายให้ผู้ปฏิบัติงาน เป็นรายได้ประจำทุกเดือน
- ค่าจูงใจ (Wage Incentive) ได้แก่ ค่าตอบแทนที่องค์การจัดให้เป็นพิเศษเพื่อจูงใจให้มีการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น เช่น การให้รางวัลพิเศษในการปฏิบัติงาน การเลื่อนตำแหน่ง
- ประโยชน์เกื้อกูล (Fringe benefit) ได้แก่ ค่าตอบแทนที่องค์การจัดให้แก่ผู้ปฏิบัติงานนอกเหนือจากค่าจ้างเงินเดือนและค่าจูงใจ เป็นค่าตอบแทนที่องค์การจัดให้เพื่อสนับสนุนให้มีการทำงานดีขึ้น หรือเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้สึกมั่นคงในการปฏิบัติงานกับองค์การ
Benefits คือ ผลประโยชน์ตอบแทน (financial reward) ที่ไม่ได้จ่ายให้ลูกจ้างโดยตรง เช่น insurance, health ...ผลตอบแทนเพิ่มเติมที่ไมใชตัวเงิน ซึ่งนายจางจายใหกับลูกจางนอกจากเงินเดือนปกติโดยอยางนอยนายจางตองจายตามกฎหมายขั้นต่ำเปนสําคัญรูปแบบของผลประโ ยชนสวนเพิ่มบางครั้งเรียวสวัสดิการพนักงาน เชน คารักษาพยาบาล ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตการจัดบริการอื่นๆใหพนักงาน เชน หองสมุดอาหาร กลางวัน เป็นต้น
วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555
พัฒนา HR Transformation ของDHL
HR Transformation คือการเปลี่ยนแปลงจากการทำงานการบริหารงานบุคคลเชิงกลยุทธ์คือ จะทำอย่างไรให้เป็นองค์กรเป็นองค์กรสุขภาพดี และองค์กรมีการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากเพราะผู้บริหารทรัพยากรมนุษย์ต้องสามารถปรับเปลี่ยนสมรรถนะ เพื่อสนับสนุนการบริหารตามกลยุทธ์องค์กร ผู้บริหารต้องเข้าใจธุรกิจขององค์กรดี เป็นผู้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มีความเป็นผู้นำ เป็นผู้เสริมสร้างพลังขับเคลื่อนขององค์กร มีความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการบริหารบุคคลจึงจะสร้างความสามารถในการแข่งขันได้ และฝ่ายHRต้องตอบว่าองค์กรจะไปได้องค์กรต้องเก่งเรื่องอะไร จะอยู่รอดได้และเก่งเหมือนทุกวันนี้ ต้องเก่งเรื่องอะไร ฝ่ายHRต้องช่วยกำหนดร่วมกับฝ่ายบริหาร การปรับปรุงระบบHR ขององค์กรDHL ดิฉันคิดว่าจะสร้าง4 ความสามารถหลักที่ DHL เลือกจะเก่งเพื่อให้องค์กรชนะหรือประสบความสำเร็จในฐานะที่เป็นผู้นำเรื่องโลจิสติกส์ของโลกคือ
1. การบริหารความเสี่ยง
2. การขนส่งและการบริการ
3. การตลาดและการสื่อสารกับลูกค้า
4. การรู้ความต้องการของลูกค้า
ส่วนกลยุทธ์หลักของHR คือ
1. ต้องหาคนเก่งและสามารถพัฒนาคนได้เร็ว
2. คนที่มีอยู่ต้องมีความมุ่งมั่นมีพลังในการทำงาน
3. HRต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องประกอบกันอย่างมีคุณภาพเพราะกลยุทธ์นี้คือทิศทางขององค์กรกับความต้องการของพนักงาน
กลุ่มดิฉัน สร้าง HR Transformation ของ DHL ขึ้นมาใหม่ดังนี้
1. สร้างความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ให้เกิดขึ้นในองค์กร HRต้องทำเครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องมือการวัดผล เครื่องมือในการสอนงาน เป็นต้น และกลยุทธ์ของHRต้องเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ขององค์กร โดยระดับบริหารต้องเห็นด้วยกับนโยบายของHR เช่น นโยบายรับคน นโยบายฝึกอบรม นโยบายให้ผลตอบแทน ฯลฯ และทำให้ชัดเจนว่าปรัชญาในการบริหารคนของDHLเป็นอย่างไร เช่น เรื่องการสื่อสาร เชื่อว่าคนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ พนักงานมีสิทธิรู้ทุกเรื่องขององค์กร
2. เปลี่ยนวิธีการทำงานของHR เช่น วิธีตั้งเป้า ต้องมีเวิร์คชอปว่า HR ทำไปเพื่ออะไร พยายามให้เชื่อมโยงว่างานที่ทำทำให้ใคร เพื่อให้คนๆ นั้นไปทำงานอะไรต่อ จนกระทั่งองค์กรได้ประโยชน์ เช่น HR อบรมให้พนักงาน ต้องมีเป้าที่ตั้งคือมีคนผ่านอบรมกี่คน
3. มุ่งผล พัฒนางานอยู่ตลอด มีทัศนคติเชิงบวกแบบทำได้ทุกอย่าง รวมพลัง แบ่งปันความรู้ ต้องทำฐานข้อมูล ใครรู้อะไรมาต้องมาบอก ต้องมาสอนกัน
3. มุ่งผล พัฒนางานอยู่ตลอด มีทัศนคติเชิงบวกแบบทำได้ทุกอย่าง รวมพลัง แบ่งปันความรู้ ต้องทำฐานข้อมูล ใครรู้อะไรมาต้องมาบอก ต้องมาสอนกัน
4. สร้างพลังใจ วิธีสร้างพลังใจคือหล่อเลี้ยงด้วยเป้าหมายว่าใกล้จะถึงและฉลองชัยชนะเมื่อได้รับคำชมจากผู้ใหญ่หรือองค์กรประสบความสำเร็จ
5. สร้างความไว้วางใจจากฝ่ายบริหารให้เกิดขึ้นกับฝ่ายHR เพื่อให้ทำงานร่วมกัน
What did I really learn on 21 Jan
วันเสาร์ที่ 21 มกราคม ดิฉันได้เรียนเรื่องวิธีการสรรหาและการคัดเลือกบุคลากรเข้ามาทำงาน โดยได้รับความรู้ดังนี้
การสรรหา (recruitment) คือ กระบวนการกลั่นกรอง และคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติคุณวุฒิทางการศึกษา มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการทำงาน ซึ่งมาสมัครงานในตำแหน่งต่าง ๆ ที่องค์การเปิดรับสมัคร
หลักการสรรหาบุคลากร หลักการสรรหาบุคลากรขององค์การ คือ ระบบการกลั่นกรองบุคลากรในขั้นต้น เริ่มจากเงื่อนไขการประกาศรับสมัคร ได้แก่ คุณสมบัติ คุณวุฒิการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน และการคัดเลือกจากการสอบคัดเลือก ได้แก่ การสอบความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ในขั้นสุดท้ายเป็นการสอบสัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกบุคลากร ที่มีความรู้ ความสามารถและเหมาะสม เข้าเป็นบุคลากรขององค์การ ตามหลักการที่ว่า "บรรจุคนให้ถูกต้องและเหมาะสมกับตำแหน่งงาน" โดยจะต้องคำนึงถึงความสำเร็จขององค์การที่ต้องอาศัยบุคลากรที่ดี มีประสิทธิภาพในการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนจะสามารถแข่งขันกับองค์การอื่นได้
หลักการสรรหาบุคลากร หลักการสรรหาบุคลากรขององค์การ คือ ระบบการกลั่นกรองบุคลากรในขั้นต้น เริ่มจากเงื่อนไขการประกาศรับสมัคร ได้แก่ คุณสมบัติ คุณวุฒิการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน และการคัดเลือกจากการสอบคัดเลือก ได้แก่ การสอบความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ในขั้นสุดท้ายเป็นการสอบสัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกบุคลากร ที่มีความรู้ ความสามารถและเหมาะสม เข้าเป็นบุคลากรขององค์การ ตามหลักการที่ว่า "บรรจุคนให้ถูกต้องและเหมาะสมกับตำแหน่งงาน" โดยจะต้องคำนึงถึงความสำเร็จขององค์การที่ต้องอาศัยบุคลากรที่ดี มีประสิทธิภาพในการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนจะสามารถแข่งขันกับองค์การอื่นได้
แหล่งของการสรรหาบุคลากร (Source of Recruitment) โดยทั่วไปแหล่งการสรรพาบุคลากรมีอยู่2 แหล่ง
1. การสรรหาจากภายในองค์กร
การสรรหาบุคลากรจากภายในองค์การ เป็นนโยบายอย่างหนึ่งขององค์การที่ต้องการจะสร้างพลังทรัพยากรบุคคลให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งการมีประสิทธิภาพในการทำงานและทำงานเป็นระบบเดียวกันแบบเป็นทีมงาน เพราะว่าบุคลากรที่สรรหาได้จากภายในองค์การนั้น เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในการทำงาน คุ้นเคยกับระบบการทำงาน และมีความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ มีความตั้งใจทำงานให้องค์การมีการพัฒนาและมีความเจริญก้าวหน้า โดยสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุคลากรที่เข้ามาทำงานใหม่
การสรรหาบุคลากรจากภายนอกองค์การ
2. การสรรหาบุคลากรจากภายนอกองค์การ เป็นการสรรหาบุคลากรสำหรับตำแหน่งงานว่าง หรือตำแหน่งงานใหม่ จากภายนอกองค์การ เป็นวิธีการที่นิยมปฏิบัติกันโดยทั่วไป สำหรับทุกองค์การที่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ตลอดจนการสร้างผลงาน และชื่อเสียงให้แก่องค์การ
การสรรหาบุคลากรจากภายนอกองค์การ
2. การสรรหาบุคลากรจากภายนอกองค์การ เป็นการสรรหาบุคลากรสำหรับตำแหน่งงานว่าง หรือตำแหน่งงานใหม่ จากภายนอกองค์การ เป็นวิธีการที่นิยมปฏิบัติกันโดยทั่วไป สำหรับทุกองค์การที่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ตลอดจนการสร้างผลงาน และชื่อเสียงให้แก่องค์การ
The big five Personality Dimensiond
คือ แบบจำลองการจำแนกบุคลิกภาพของมนุษย์ โดยพิจารณาใน 5 องค์ประกอบหลัก
1. Neuroticism ความมั่นคงในอารมณ์ โดยพิจารณาในแง่ของความวิตกกังวล ความโกธร ความหดหู่ ความระมัดระวังในตนเอง ความหุนหันพลันแล่น และความอ่อนแอ
2. Extraversion การเข้าสังคม พิจารณาในแง่ของการมีชีวิตชีวา ความกระตือรืนร้น ความตื่นเต้น อารมณ์ดี
3. Openness to experience การเปิดกว้างในการเรียนรู้ประสบการณ์ทั้งในด้านศิลปะ อารมณ์ การผจญภัย แนวความคิด จินตนาการ และสิ่งแปลกใหม่
4. Agreeableness การปรองดองเห็นพ้องต้องกัน พิจารณาในแง่ของความเห็นอกเห็นใจ การร่วมมือ เปิดเผย ตรงไปตรงมา อ่อนน้อมถ่อมตน
5. Conscientiousness การมีสติ พิจารณาในแง่ของความรอบคอบ ระมัดระวัง มีวินัย รับผิดชอบ มีการวางแผน มีเป้าประสงค์
วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555
ความรู้ที่ได้รับจากการชมวิดิโอ HR Transformation ของ AIS
หลังจากได้ชมวิดิโอ HR Transformation ของ AIS ได้รับความรู้เพิ่มดังนี้
ส่วนในการสรรหาบุคคลากรที่จะมาทำงานในองค์กรโดยเลือกคนที่มีความสามารถโดดเด่น มีความพร้อมที่จะทำงาน มีความรู้ตรงกับตำแหน่งที่สมัคร การสมัครงาน AIS ใช้วิธีคัดเลือกจากการส่ง Clip Video เข้ามา โดยทางบริษัทจะหาคนที่โดดเด่น มีคุณภาพ มีความท้าทาย มีความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาทำงานที่บริษัท มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกับบริษัท มีความเป็น Triple I ซึ่งประกอบไปด้วย 1. Individual talent 2. Idea generation 3. Infinite change หลังจากการคัดเลือกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการปฐมนิเทศ โดยศึกษาจากการทำงานจริงและสถานที่จริง ซึ่งจะให้พนักงานได้จะได้คุ้นเคยกับองค์กรและผู้บริหารอีกทั้งยังเป็นการสร้างความสนิทสนมเป็นกันเองมากขึ้น
AIS ได้ใช้ HR Innovation มาพัฒนาฝ่ายทรัพยากรบุคคล เช่นเรื่อง บทบาทหน้าที่ของผู้บริหารและพนักงาน และพัฒนาไปกับเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ๆทีเกิดขึ้นKey Concept of HRM Theory on Youtube 21 Jan 2012
คลิปวิดิโอนี้ได้สัมภาษณ์ HR ที่ทำหน้าที่คัดสรรพนักงานเข้าทำงานแต่ละองค์กร องค์กรแรกคือบริษัทโตโยต้ากรุงเทพยนต์ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องทัศนคติ ต้องมีทัศนคติเป็นเชิงบวก มีความคิด ความเห็นไปในทางเดียวกับบริษัท ต้องมีคุณภาพทำงานตามระบบของบริษัทได้ และเติบโตไปพร้อมกับบริษัทแม่ด้วย องค์กรที่สองคือ โรงแรมเซ็ลทาราแกรนด์ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์กรุงเทพ การคัดเลือกบุคคลากรที่จะมาทำงานกับโรงแรม เป็นคนที่มีจิตใจดี ด้านความรู้ มีความรู้แบบรอบด้านหลายๆเรื่องและที่สำคัญคือมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง อยากจะเรียนรู้และอยากจะท้าทายทางโรงแรมยินดีต้อนรับ
วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555
Core competency และ Function competency ของ บริษัทDHL
บริษัท DHL มองพนักงานเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นทุนขององค์กรที่จะพาไปสู่ความสำเร็จ และสามารถพัฒนาองค์กรตลอดเวลา
Core competency ความสามารถหลัก จุดเด่นที่ทำให้องค์กรหรือพนักงานในแต่ละตำแหน่งสามารถบรรลุเป้าหมายของผลงานหรือกลยุทธ์ขององค์กรได้ เป็นจุดเด่นหรือคุณสมบัติที่เหนือกว่าคู่แข่งขันและทำให้องค์กรอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน
ความสามารถหลักของบริษัทDHL
1 สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะกับสภาพธุรกิจ
2. มีการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพผ่านทางฝ่ายให้บริการส่วนภูมิภาค
3. มีการประเมินวัดผลตามข้อตกลงและเงื่อนไขในการให้บริการ โดยมีการรายงานผลการบริการสารสนเทศโดยละเอียด
4. มีกระบวนการบริหารความเสี่ยงและจัดการกับปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
5. มีกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ
6. ร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านสารสนเทศชั้นนำเพื่อให้บริการ
2. มีการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพผ่านทางฝ่ายให้บริการส่วนภูมิภาค
3. มีการประเมินวัดผลตามข้อตกลงและเงื่อนไขในการให้บริการ โดยมีการรายงานผลการบริการสารสนเทศโดยละเอียด
4. มีกระบวนการบริหารความเสี่ยงและจัดการกับปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
5. มีกระบวนการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ
6. ร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านสารสนเทศชั้นนำเพื่อให้บริการ
7 ดำเนินการด้วยกระบวนการที่ได้มาตรฐาน BS15000 ให้บริการ ด้วยบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานของสถาบัน Institute of IT Service Management
8. สามารถควบคุมและบริหารจัดการได้อย่างประสิทธิภาพด้วยระบบ บริหาร ITSMF (IT Service Management Forum)
9. มีระบบบริหารจัดการระบบ ITSMF ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
9. มีระบบบริหารจัดการระบบ ITSMF ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
Core competency สมรรถนะหลักของพนักงาน DHL
1. การมุ่งผลสัมฤทธิ์
มุ่งมั่นปฏิบัติงานให้เกิดผลสำเร็จตามมาตรฐานของDHL และการสร้างสรรค์ผลงาน
2. จิตสำนึกในการให้บริการ
มีความตั้งใจและพยายามด้านการบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
3. การสั่งสมความเชี่ยวชาญในงาน
มีความใฝ่รู้ พัฒนาศักยภาพและความรู้ความสามารถของตนเองตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ
4. จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคม ช่วยเหลือสังคมเมื่อประสบภัยพิบัติและมีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
5. การทำงานเป็นทีม มีความตั้งใจทำงานร่วมกับผู้อื่น เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในทีม
Function competency สมรรถนะในงานของพนักงาน DHL
สมรรถนะที่กำหนดเฉพาะสำหรับสายงานในแต่ละด้านเพื่อสนับสนุนให้พนักงานแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมแก่หน้าที่ และส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติภารกิจในหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้น
1. ศิลปะการสื่อสารจูงใจ
มีความสามารถที่จะสื่อความด้วยการเขียน พูด ตลอดจนการชักจูงให้บุคคลอื่นเกิดความประทับใจ
2. การคิดวิเคราะห์ มีความเข้าใจสถานการณ์ ปัญหา แนวคิด ทฤษฎี โดยสามารถลำดับปัญหาสถานการณ์ตลอดจนระบุเหตุผลได้
3. การมองภาพองค์รวม ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ มองภาพรวมเป็นกรอบความคิดหรือแนวคิดใหม่ๆ
4. ความยืดหยุ่น มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และกลุ่มคนที่หลากหลาย
5. ความถูกต้องของงาน มีความสามารถในการปฏิบัติงานให้ถูกต้องตลอดจนสามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นได้
6. การดำเนินการเชิงรุก การเล็งเห็นปัญหาหรือโอกาสพร้อมทั้งสามารถแก้ไขปัญหานั้นๆด้วยวิธีสร้างสรรค์
สมรรถนะในกลุ่มงานของกลุ่มนโยบายและวางแผนงาน
เช่น ทรัพยากรบุคคล
ได้แก่ การมองภาพองค์รวม ศิลปะการสื่อสารจูงใจ การคิดวิเคราะห์
สมรรถนะในกลุ่มงานของกลุ่มเทคนิคเฉพาะ
เช่น พนักงานบัญชี บริการการเงิน บริการขนส่ง บริหารการจัดการผลิตภัณฑ์ รับประกันคุณภาพบริการ บริหารความเสี่ยง จัดซื้อจัดจ้าง วิศวอุตสาหกรรม นักบินและลูกเรือบนเครื่อง
ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ ความถูกต้องของงาน ความยืดหยุ่น
สมรรถนะในกลุ่มงานของกลุ่มบริการทั่วไป
เช่น พนักงานพัสดุ
ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ ความถูกต้องของงาน ความยืดหยุ่น
สมรรถนะในกลุ่มงานของกลุ่มสนับสนุนงานทั่วไป
เช่น งานธุรการ งานบริหารทั่วไป
ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ ความถูกต้องของงาน ความยืดหยุ่น
สมรรถนะในกลุ่มงานของกลุ่มประชาสัมพันธ์
การสื่อสารจูงใจ การดำเนินการเชิงรุก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)